การลงทุนในคอนโดมิเนียมเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนมือใหม่ แต่หากไม่ได้ศึกษาให้ดีหรือวางแผนอย่างรอบคอบ อาจนำมาซึ่งผลเสียและความผิดพลาดได้ นี่คือข้อผิดพลาดที่มือใหม่มักทำพลาดพร้อมตัวอย่างผลเสียที่อาจเกิดขึ้น
1. ไม่ศึกษาตลาดให้เพียงพอ
นักลงทุนมือใหม่หลายคนมักลงทุนโดยไม่ศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างละเอียด พวกเขาอาจพิจารณาแค่โครงการที่สนใจ แต่ไม่คำนึงถึงสภาพตลาดโดยรวม เช่น การเติบโตของย่านนั้นๆ หรือแนวโน้มในอนาคต เมื่อซื้อคอนโดในย่านที่อิ่มตัว (อุปทานล้นตลาด) ส่งผลให้ไม่มีผู้เช่าหรือขายต่อได้ยาก ทำให้ต้องถือครองทรัพย์สินนานกว่าที่คาดหรือขายต่อในราคาขาดทุน
2. ไม่คำนึงถึงต้นทุนแฝง
นักลงทุนหลายคนคิดเพียงแค่ราคาซื้อขายของคอนโด แต่ไม่คิดถึงต้นทุนแฝงอื่น ๆ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา หรือภาษี การละเลยต้นทุนเหล่านี้อาจทำให้กำไรลดลงอย่างมาก เมื่อได้รับค่าเช่าจากผู้เช่าเดือนละ 20,000 บาท แต่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางและค่าซ่อมแซมเพิ่มอีกเดือนละ 5,000 บาท ทำให้กำไรที่แท้จริงเหลือเพียง 15,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
3. เลือกทำเลที่ไม่เหมาะสม
ทำเลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การเลือกทำเลที่ไม่ดีหรือไม่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจหรือสังคมอาจส่งผลให้คอนโดไม่มีมูลค่าเพิ่มหรือมีความต้องการเช่าน้อย เมื่อซื้อคอนโดที่อยู่ไกลจากรถไฟฟ้าและไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียง ทำให้ปล่อยเช่าได้ยาก ต้องลดค่าเช่าเพื่อดึงดูดผู้เช่า หรือขายต่อในราคาที่ต่ำกว่าราคาซื้อเพราะไม่มีผู้สนใจ
4. ไม่ตรวจสอบสถานะทางการเงินก่อนลงทุน
นักลงทุนบางคนไม่ได้คำนวณรายได้รายจ่ายของตนเองให้ชัดเจนก่อนลงทุน เช่น การมีเงินสำรองไม่เพียงพอสำหรับกรณีที่เกิดปัญหาหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน การกู้เงินเกินกำลังอาจทำให้เกิดภาระหนี้สินมากเกินไป เมื่อกู้เงินธนาคารซื้อคอนโดโดยคาดหวังจะปล่อยเช่าได้ทันที แต่เมื่อต้องรอหาผู้เช่านานหลายเดือน ก็ไม่มีรายได้จากค่าเช่าเข้ามา ขณะเดียวกันต้องชำระดอกเบี้ยเงินกู้และค่าส่วนกลาง ส่งผลให้การเงินมีปัญหา
5. ไม่คำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างละเอียด
บางคนไม่คำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนหรือ (ROI) อย่างละเอียด ไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ซ่อนเร้น เช่น ภาษี หรือค่าซ่อมแซม ทำให้การตัดสินใจลงทุนไม่คุ้มค่า เมื่อซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าในราคาที่สูง โดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าเสื่อมสภาพ ทำให้เมื่อคำนวณรายได้จริง พบว่าผลตอบแทนที่ได้รับต่ำกว่าที่คาดไว้มาก
6. ลงทุนตามกระแสหรือคำแนะนำจากผู้อื่น
นักลงทุนมือใหม่บางคนลงทุนตามคำแนะนำจากเพื่อนหรือคนรอบข้างโดยไม่ได้วิเคราะห์หรือศึกษาข้อมูลด้วยตนเอง การทำตามคนอื่นโดยไม่มีความรู้เพียงพออาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย เมื่อซื้อคอนโดในทำเลที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพียงเพราะมีคนแนะนำว่าราคาถูกและมีโปรโมชั่นที่ดี แต่หลังจากลงทุนกลับพบว่าการปล่อยเช่าหรือขายต่อทำได้ยากมาก และมูลค่าของคอนโดไม่เพิ่มขึ้น
7. ไม่เข้าใจเรื่องกฎหมายและภาษี
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีความซับซ้อนทางกฎหมายและภาษี นักลงทุนที่ไม่เข้าใจรายละเอียดทางกฎหมายหรือไม่ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อาจเจอปัญหาทางภาษีหรือการทำธุรกรรมที่ผิดพลาด เมื่อขายคอนโดโดยไม่รู้ว่าต้องชำระภาษีที่ดินในอัตราที่สูง ทำให้ต้องจ่ายภาษีมากกว่าที่คาด ส่งผลให้กำไรจากการขายลดลงอย่างมาก
การลงทุนในคอนโดมิเนียมสามารถสร้างรายได้และกำไรได้ในระยะยาว แต่การศึกษาข้อมูลและวางแผนเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น นักลงทุนมือใหม่ควรระมัดระวังและทำการศึกษาทุกด้านอย่างละเอียดเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในระยะยาว